การลงโทษทีม และนักฟุตบอล 1. ทีมที่ไม่มาแข่งขันตามวัน เวลา และสนามที่กำ�หนด หรือทีมที่มาถึง สนามแล้วแต่ไม่พร้อมที่จะลงสนามแข่งขัน
ภายในเวลาที่กำ�หนด จะถูกปรับเป็นแพ้โดยเสีย 2 ประตู และถูกหัก 3 คะแนน ส่วนคู่แข่งขันเป็นผู้ชนะได้ 3 คะแนนและ
ได้จำ�นวนประตู 2 ประตู ในกรณีที่ไม่พร้อมที่จะลงแข่งขันทั้ง 2 ทีมให้ปรับเป็นแพ้ทั้งคู่โดยเสีย 2 ประตู ทั้ง 2 ทีม
และถูกหักคะแนนทีมละ 3 คะแนน และถูกปรับเป็นเงินค่าเสียหายตามที่มีการเสียหายจริงแก่ทุกฝ่าย ทั้งนี้ต้องไม่น้อยกว่า
50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) หากการไม่มาแข่งขัน หรือมาแล้วไม่พร้อมลงแข่งขันมีเหตุอัน
ควรให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการ หรือผู้แทน
2. ในวันที่กำ�หนดให้แต่ละทีมทำ�การแข่งขัน ทีมที่เข้าแข่งขันจะต้องพร้อมที่จะลงแข่งขันตามวัน เวลา
และสนามแข่งขันที่กำ�หนด ทีมใดที่ลงสนามแข่งขันแล้วเหลือผู้เล่นในสนามน้อยกว่า 7 คน ให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้
และถูกหัก 3 คะแนนโดยให้นับประตูเสียตามที่เสียไปแล้วแต่ทั้งนี้ถ้าประตูเสียต่ำ�กว่า 2 ประตู ให้นับเป็นเสีย
2 ประตู และให้นับประตูได้เป็น 0 ประตู (ไม่ว่าประตูที่เกิดขึ้นก่อนการถูกปรับแพ้นั้นจะเป็นเช่นไร) ส่วนคู่แข่งขัน
เป็นผู้ชนะ ได้ 3 คะแนน และได้จำ�นวนประตูตามจำ�นวนที่คู่แข่งขันต้องเสียประตูหากได้ต่ำ�กว่า 2 ประตู ให้ถือว่า
ได้ 2 ประตู
3. กรณีที่ทีมใดไม่ลงทำ�การแข่งขัน หรือไม่ร่วมการแข่งขันต่อจนหมดเวลาหรือนักกีฬาผละจากการแข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่
และนักกีฬาของทีมนั้นเป็นต้นเหตุให้การแข่งขันยุติลงตามรายงานของผู้ตัดสินให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ และถูกหัก 3 คะแนน
โดยให้นับประตูเช่นเดียวกันกับข้อ 1. และถูกปรับไม่น้อยกว่า 50,000 บาท(ห้าหมื่นบาทถ้วน) ส่วนการลงโทษอื่น ๆ
ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการพิจารณามารยาทวินัย และข้อประท้วง
4. การถอนทีมระหว่างการแข่งขัน จะต้องทำ�เป็นลายลักษณ์อักษรโดยประธานสโมสร หรือผู้ที่ได้รับมอบอำ�นาจ
เป็นลายลักษณ์อักษรจากประธานสโมสร เป็นผู้ลงนาม ซึ่งการถอนทีมนี้จะต้องถูกลงโทษปรับเป็นเงิน 50,000 บาท
(ห้าหมื่นบาทถ้วน) และห้ามไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลที่สมาคม หรือที่ทีพีแอล(TPL) จัดขึ้นทุกประเภท
เป็นเวลา 2 ปี และต้องส่งเงินบำ�รุงทีมที่ได้รับไปทั้งหมดคืน
5. ในวันแข่งขันให้ผู้จัดการทีมส่งบัญชีรายชื่อ พร้อมทั้งลำ�ดับหมายเลขให้ตรงตามหมายเลขที่สมัครไว้
ตามแบบของ “คณะกรรมการ” โดยให้มีผู้เล่นไม่เกิน11 คน และผู้เล่นสำ�รองไม่เกิน 9 คน ก่อนเวลาการแข่งขัน 1
ชั่วโมง 15 นาทีของวันที่ลงทำ�การแข่งขันโดยให้ส่งรายชื่อนี้ต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันของคณะกรรมการ
ที่ได้รับมอบหมายให้ไปดำ�เนินการแข่งขัน
6. ถ้าปรากฏว่าทีมใดจัดนักกีฬาที่ไม่มีสิทธิ์ตามระเบียบการแข่งขันนี้ลงแข่งขันให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ใน
การแข่งขันครั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการประท้วงหรือไม่ก็ตามโดยกำ�หนดโทษไว้ตามข้อ 3. ส่วนค่าปรับให้ยกเว้น
7.การเปลี่ยนตัวผู้เล่นในการแข่งขันแต่ละนัดให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ 3 คน ผู้เล่นที่จะเข้าเปลี่ยนตัวต้อง
อยู่ในรายชื่อผู้เล่นสำ�รอง 9 คน ตามบัญชีรายชื่อที่ยื่นไว้ก่อนการแข่งขันผู้ที่เปลี่ยนตัวออกไปแล้วจะกลับเข้ามา
ลงแข่งอีกไม่ได้
8. นักกีฬาจะถูกหักคะแนนตามเกณฑ์ต่อไปนี้
ก. ได้รับใบเหลือง จะถูกหักคะแนน 2 คะแนน
ข. ได้รับใบแดงจากการได้รับใบเหลือง 2 ใบ ใน 1 นัดจะถูกหักคะแนน 4 คะแนน (ใบเหลือง+ใบเหลือง = ใบแดง)
ค.ได้รับใบแดง (เล่นผิดกติกาตามเงื่อนไขที่กำ�หนดไว้ใน หลักเกณฑ์ของใบแดง) จะถูกหักคะแนน 6 คะแนน
ง. ได้รับใบเหลืองแล้วได้รับใบแดง ในกรณีเล่นผิดกติการ้ายแรงจะถูกหักคะแนน 8 คะแนน (กระทำ�ฝ่ายเดียว) ใน 1 นัด
จ. ได้รับใบแดง (ก่อเหตุทะเลาะวิวาททำ�ร้ายร่างกาย)จะถูกหักคะแนน 12 คะแนน
9. นักฟุตบอลจะถูกงดไม่ให้ลงแข่งขันตามเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
ก. เมื่อนักฟุตบอลถูกหักคะแนนสะสมรวมครบ 6 คะแนน ให้งดการแข่งขันในครั้งต่อไป 1 ครั้ง
ข. เมื่อนักฟุตบอลถูกหักคะแนนสะสมรวมครบ 12 คะแนน ให้งดการแข่งขันในนัดต่อไป 2 ครั้ง และถูกปรับ
เป็นเงิน 4,000 บาท (สี่พันบาทถ้วน)
ค. เมื่อนักฟุตบอลถูกหักคะแนนสะสมรวมครบ 18 คะแนน ให้งดการ แข่งขันในนัดต่อไป 2 ครั้ง
และถูกปรับเป็นเงิน 8,000 บาท (แปดพันบาทถ้วน)
ง. เมื่อนักฟุตบอลถูกหักคะแนนสะสมรวมครบ 24 คะแนน หรือมากกว่า ให้งดการแข่งขันในนัดต่อไป 2 ครั้ง
และถูกปรับเป็นเงิน 16,000 บาท(หนึ่งหมื่นหกพันบาทถ้วน)
จ. เมื่อนักฟุตบอลถูกหักคะแนนสะสมรวมครบ 30 คะแนน หรือมากกว่าให้งดลงแข่งขันทั้งฤดูกาลและถูกปรับเป็นเงิน
32,000 บาท (สามหมื่นสองพันบาทถ้วน)
ฉ. หากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้น นอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ อันถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติไม่เหมาะสมกับการเป็นนักฟุตบอลที่ดี หรือเจ้าหน้าที่ทีม
ที่ดีหรือกองเชียร์ที่ดีตามรายงานของผู้ตัดสินหรือของผู้ควบคุมการแข่งขัน (ไม่ถูกใบเหลือง ใบแดง) ให้ผู้ควบคุมการแข่งขันรายงานความผิดนั้น
ต่อคณะกรรมการพิจารณามารยาทวินัยและข้อประท้วง เพื่อพิจารณาโทษหักคะแนน หรือปรับเป็นเงินแล้วแต่กรณีตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ผู้กระทำ�และการกระทำ�ผิดมรรยาทและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในสนามแข่งขัน
ช. การลงโทษใดๆ แก่นักฟุตบอล และหรือทีมที่เข้าร่วมแข่งขันที่ปฏิบัติผิดระเบียบการแข่งขันฯ ที่คณะกรรมการ
พิจารณามารยาทวินัย และข้อประท้วงได้ดำ�เนินการ และประกาศไปแล้วนักฟุตบอล และ/หรือทีมองค์กรสมาชิกสามารถ
ดำ�เนินการอุทธรณ์ต่อ “คณะกรรมการ” ได้โดยคำ�ตัดสินของ “คณะกรรมการ”ให้ถือเป็นอันสิ้นสุด
ซ. การหักคะแนนตามข้อ 8. ให้นับต่อเนื่องทั้งเลก 1 และเลก 2ค่าปรับที่เกิดขึ้น ตามข้อ 9. นี้ให้องค์สมาชิก
ต้นสังกัดของนักกีฬาเป็นผู้รับผิดชอบในการชำ�ระค่าปรับฯทุกกรณี การดำ�เนินการชำ�ระเงินค่าปรับดังกล่าว ให้ดำ�เนินการ
ให้เสร็จสิ้นไม่น้อยกว่า 3 วันทำ�การก่อนวันแข่งขัน มิฉะนั้นนักกีฬาผู้นั้นจะลงทำ�การแข่งขันไม่ได้จนกว่าจะชำ�ระเงินแล้วเสร็จ
ระเบียบการลงโทษและ/หรือปรับเงินผู้กระทำ�และการกระทำ�ผิดมารยาทและมีพฤติกรรม
ไม่เหมาะสมในสนามแข่งขันเพื่อให้การแข่งขันฟุตบอลอาชีพของไทย มีพัฒนาการที่สูงขึ้นในทุกๆ ด้านและทัดเทียมกับอารยะประเทศ
ทั้งในทวีปยุโรป อเมริกาใต้ และเอเชีย เช่น เจลีกของประเทศญี่ปุ่น จึงกำ�หนดระเบียบการลงโทษและการปรับเงินนักฟุตบอล
ผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่ทีม ทีมฟุตบอล สโมสร และกองเชียร์ ที่กระทำ�ความผิดมารยาทในการแข่งขันแต่ละนัดขึ้นไว้ เพื่อใช้ลงโทษเพิ่มเติม
จากระเบียบว่าด้วย การพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง พ.ศ. 2546 และระเบียบว่าด้วยการพิจารณามารยาทความประพฤติพร้อม
บทลงโทษของผู้เกี่ยวข้องกับทีมและการแข่งขัน พ.ศ. 2549 ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดังต่อไปนี้
1. นักฟุตบอล1.1 กรณีไม่มี ไอ.ดี.การ์ด แสดงในวันแข่งขัน
ครั้งที่ 1 ปรับ 4,000 บาท
ครั้งที่ 2 ปรับ 8,000 บาท
ครั้งที่ 3 ปรับ 16,000 บาท
1.2 ด่าผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสินด้วยถ้อยคำ�หยาบคายทั้งใน-นอกสนามปรับเงิน 10,000 บาท และห้ามลงแข่งขันต่อไป 1 นัดแข่ง
1.3 เยาะเย้ยทีมคู่ต่อสู้หรือกองเชียร์คู่ต่อสู้ด้วยพฤติกรรมชัดแจ้งปรับเงิน 10,000 บาท และห้ามลงแข่งขันนัดต่อไป 1 นัดแข่ง
1.4 เจตนาหรือพยายามที่จะเข้าไปทำ�ร้ายผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน ห้ามลงแข่งขันนัดต่อไป 1 นัดและปรับเงิน 10,000 บาท
1.5 ทำ�ร้ายผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน ห้ามลงแข่งขันตลอดฤดูกาลและปรับเงิน 50,000 บาท ถึง 100,000 บาท
2. ผู้ฝึกสอนหรือเจ้าหน้าที่ทีม2.1 แสดงกิริยาที่ไม่ควรต่อหน้าสาธารณชน เช่น วิ่งเข้าไปประท้วงการตัดสินของผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือเตะสิ่งของ
เป็นต้น ห้ามทำ�หน้าที่นัดต่อไป 1 นัดและปรับเงิน 10,000 บาท
2.2 ประท้วงโดยการสั่งให้ผู้เล่นออกนอกสนามแข่งขัน ห้ามทำ�หน้าที่ 2 นัดแข่งและปรับเงิน 10,000 บาท
2.3 ด่าผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสินด้วยถ้อยคำ�ที่หยาบคาย ห้ามทำ�หน้าที่ 2 นัดและปรับเงิน 20,000 บาท
2.4 ทำ�ร้ายผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน ห้ามลงแข่งขันตลอดฤดูกาลและปรับเงิน 50,000 บาท ถึง 100,000 บาท
3. ทีม3.1 กรณีที่วอล์คเอ้าท์ออกจากสนามแข่งขัน
ครั้งที่ 1 ปรับ 30,000 บาท
ครั้งที่ 2 ปรับ 50,000 บาท และพิจารณาเพิ่มโทษ
4. กองเชียร์ทีมเจ้าบ้าน/ทีมเยือน แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม- ตะโกนด่าทอผู้ตัดสิน/ทีมคู่แข่งขัน ปรับ 10,000 บาท
- จุดพลุระหว่างการแข่งขัน ปรับ 15,000 บาท
- ขว้างปาภาชนะใส่เครื่องดื่มใส่ผู้ตัดสินหรือผู้เล่น ปรับ 5,000 บาท ถึง 30,000 บาท
- ขว้างปาภาชนะใส่เครื่องดื่มลงไปในสนามในปริมาณที่มากพอทำ�ให้เกิดอันตราย ปรับ 5,000 บาท
ถึง 30,000 บาท
- วิ่งเข้าไปในสนามระหว่างการแข่งขัน ปรับ 5,000 บาท ถึง 30,000 บาท
- ก่อการทะเลาะวิวาทกับกองเชียร์มเยือน/ทีมเจ้าบ้าน ปรับทีมละ 50,000 บาทและ พิจารณาเพิ่มโทษ
- ทำ�ร้ายผู้ตัดสิน/นักกีฬาของทีมคู่แข่งขัน ปรับ 50,000 บาทและ พิจารณาเพิ่มโทษ
- ทะเลาะวิวาทกับกองเชียร์ทีมเยือน/ทีมเจ้าบ้านจนถึงขั้นเกิดการจลาจล ปรับทีมละ 100,000 บาท
และ พิจารณาเพิ่มโทษโดยค่าปรับที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณี เป็นความรับผิดชอบของแต่ละสโมสรจะต้องชำ�ระ
ให้กับบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำ�กัด ภายในเวลาอันควร หากสโมสรใดไม่ปฏิบัติตาม บริษัทฯ อาจจะพิจารณาห้าม
ผู้ที่กระทำ�ผิดลงทำ�หน้าที่หรือกำ�หนดมาตรการอื่น ตามแต่จะเห็นสมควร
หมายเหตุ การเพิ่มโทษให้พิจารณาตามลำ�ดับ ดังนี้
1. ปรับเป็นเงินตามปกติ และให้แต่ละทีมดำ�เนินการสืบสวน เพื่อห้ามกองเชียร์ (เป็นรายบุคคล) ของแต่ละทีม
ที่มีเรื่องเข้าในสนามตลอดฤดูกาลแข่งขันตลอดจนให้ทีมทำ�ภาคทัณฑ์ไว้กับคณะกรรมการจัดการแข่งขันว่าจะป้องกันไม่ให้
เกิดเรื่องอีก
2. ห้ามจัดการแข่งขันในสนามเหย้า (ในกรณีที่ฝ่ายเหย้าเป็นฝ่ายก่อเรื่อง)
3. ให้ถอนทีมที่กองเชียร์ทำ�ผิดออกจากการแข่งขันในการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพในฤดูกาลนั้น และให้ลดชั้นลงไปเล่นใน
ดิวิชั่นที่ต่ำ�ลงมา
4. ถอนชื่อสโมสรสมาชิกออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลฯ
"ยับยั้งชั่งใจดีที่สุด" สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องทำเป็นต้นแบบ นอกเหนือจากผลงานของทีมที่อนาคตเราจะต้อง
เป็นทีมหัวแถวของเมืองไทยให้ได้ ก็คือ "ความเป็นสุึภาพบุรุษลูกหนัง" ของนักเตะทั้งในและนอกสนาม เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน
และที่สำคัญอย่างที่สุด แฟนบอลเชียงราย ยูไนเต็ด เราจะพัฒนาเป็นผู้เล่นคนที่ 12 ที่มีคุณภาพ เชียร์สุดใจแต่ไม่ผิดกติกา
ร่วมด้วยช่วยกัน วันนี้ยังทำได้ไม่ดี แต่อนาคตเราจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน

OK